การเตรียมพื้นผิวและชุบเคลือบสีที่ยั่งยืนปักหมุดเติบโตต่อเนื่อง เพราะแค่สวยและใช้งานดีไม่พอ แต่ต้องยั่งยืนด้วย

23 February 2023

- อุตสาหกรรมรักษาผิวและเคลือบผิวที่ยั่งยืน เดินหน้าสู่กระแสหลักอย่างจริงจัง สร้างแต้มต่อให้กับผู้ประกอบการที่หวังเอาชนะใจผู้บริโภคหัวใจสีเขียว
- กฎระเบียบและข้อบังคับของภาครัฐทั่วโลก บีบให้ผู้ประกอบการเร่งวิจัยและพัฒนาสารเคลือบที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

"การเคลือบพื้นผิว" ได้ทำหน้าที่เป็นกลไกเพิ่มประสิทธิภาพของวัสดุ สินค้า และผลิตภัณฑ์มาสักระยะหนึ่งแล้ว และแทบจะกลายเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ในชิ้นงานที่เน้นความประณีต สวยงาม มีมูลค่า และมีประสิทธิภาพสูง แต่นับจากทิศทางของการทำธุรกิจและอุตสาหกรรมทั่วโลกต่างมุ่งหน้าสู่ความยั่งยืน ลำพังคุณสมบัติที่กล่าวมาจึงไม่เพียงพออีกต่อไป เพราะเทรนด์ของ Sustainable Surface & Coating ได้มาแรงขึ้นเรื่อย ๆ และคาดว่าจะกลายเป็นแนวทางหลักในการสร้างสรรค์นวัตกรรมของอุตสาหกรรมนี้อย่างแน่นอน

ทั้งนี้ อุตสาหกรรมการเคลือบเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมการผลิตที่มีนวัตกรรมและไดนามิกมากที่สุด โดยการเคลือบผิวทางอุตสาหกรรมมีการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมเป็นอย่างมากในช่วง 2-3 ทศวรรษที่ผ่านมา ส่งผลให้เกิดการใช้งานที่น่าตื่นเต้นทั้งในอุตสาหกรรมการบินและยานยนต์ ไปจนถึงการใช้งานในอุตสาหกรรมก่อสร้างและที่อยู่อาศัย

สำหรับสถานการณ์ของอุตสาหกรรมนี้ นับว่ามีการแข่งขันสูงและมีความหลากหลาย เนื่องจากมีผู้ผลิตรายใหญ่หลายราย ขณะที่คุณภาพและราคาของผลิตภัณฑ์ คาดว่าจะเป็นปัจจัยสำคัญที่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจของผู้ซื้อ เช่นเดียวกับการเพิ่มนโยบายหรือข้อกำหนดด้านสิ่งแวดล้อมของรัฐบาลประเทศต่าง ๆ เช่น สหภาพยุโรปมีข้อบังคับเกี่ยวกับการปล่อยสารประกอบอินทรีย์ระเหยง่าย (VOCs) คาดว่าจะกระตุ้นความต้องการผลิตภัณฑ์รักษ์โลก ซึ่งจะช่วยผลักดันแนวโน้มอุตสาหกรรมการเคลือบสีเขียวนี้ให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง รวมถึงทำให้ผู้ประกอบการเร่งวิจัยและพัฒนาสารเคลือบที่ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อมที่มีคุณสมบัติด้าน ๆ อื่นที่โดดเด่นควบคู่กันไป

โดยการเคลือบสีเขียวหรือสารเคลือบที่ยั่งยืนไม่เพียงแต่เกี่ยวข้องกับ VOCs และมลพิษทางเคมีเท่านั้น แต่ยังรวมถึงปัจจัยอื่น ๆ เช่น การใช้พลังงานและทรัพยากรที่คุ้มค่า การกำจัดของเสียให้เหลือน้อยที่สุด การเพิ่มประสิทธิภาพของกระบวนการเคลือบ การลดรอยเท้าคาร์บอนของห่วงโซ่อุปทาน และการใช้วัสดุหมุนเวียน

ปัจจุบันสารเคลือบที่ยั่งยืนได้พัฒนาในหลากหลายมิติ รวมถึงกระบวนการผลิตสารเคลือบที่มีประสิทธิภาพทางนิเวศวิทยาที่ดีขึ้น เช่น การเคลือบผิวทางสถาปัตยกรรม โดยเฉพาะในการเคลือบสีฝุ่น นอกจากนี้ ยังพัฒนากระบวนการเคลือบผงขึ้นมาใหม่ โดยเคลือบน้อยชั้นลงแต่ให้ผลลัพธ์ที่เหมือนกัน รวมถึงสารเคลือบทำความสะอาดตัวเองแบบ Hydrophilic ซึ่งทำงานบนพื้นฐานของกระบวนการการเร่งปฏิกิริยาด้วยแสง (Photocatalytic) โดยสารเหล่านี้จะสลายสิ่งสกปรกเมื่อสัมผัสกับแสงแดด จากนั้นจะถูกชะล้างออกไปเมื่อโดนน้ำ ขณะที่การเคลือบกันน้ำที่ทนทานพร้อมฟังก์ชันที่ไม่ชอบน้ำเป็นพิเศษให้ผลลัพธ์ที่ยอดเยี่ยมสำหรับการใช้งานหลากหลายประเภท เช่น การตกแต่งในอุตสาหกรรมการก่อสร้าง เครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์ หนังสัตว์ ยานพาหนะ เฟอร์นิเจอร์ไม้ และแม้แต่การอนุรักษ์สถานที่ทางประวัติศาสตร์ เป็นต้น

จากรายงานของ MarketsAndMarkets คาดการณ์ว่ามูลค่าอุตสาหกรรมการเคลือบจะเติบโตจาก 102,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในปี 2564 เป็น 116,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในปี 2569 หรือมีอัตราการเติบโตต่อปี (CAGR) 2.5%

สำหรับผู้ที่สนใจข่าวคราวความเคลื่อนไหวของอุตสาหกรรมการรักษาพื้นผิว สี และสารเคลือบผิว โปรดติดตาม ME Blog อย่างต่อเนื่อง และเตรียมพบกับผู้ผลิตและผู้จัดจำหน่ายทั่วโลกกว่า 130 แบรนด์ ที่จะมาอัพเดทนวัตกรรม และองค์ความรู้ใหม่ ๆ ในอุตสาหกรรมนี้ รวมถึงเทคโนโลยีการเคลือบพื้นผิวที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ตลอดจนขอเชิญร่วมสัมมนาแลกเปลี่ยนมุมมองกับผู้เชี่ยวชาญในงาน “เซอร์เฟซ แอนด์ โค๊ทติ้งส์ 2023” ซึ่งจัดขึ้นโดย อาร์เอ็กซ์ เทรดเด็กซ์ระหว่างวันที่ 21-24 มิถุนายน 2566 ณ ไบเทค บางนา